"พระพุทธเจ้าต้องการให้ดับทุกข์ แต่ผู้ฟังคำสอนต้องการจะมีความสุขตามความรู้สึกของตน และไม่รู้ว่าความอยากในความสุขนั่นแหละมันจะกัดเอาอย่างเจ็บปวด"
เขียนโดย คุณ ง๊องแง๊ง
วันที่ 24 ก.ค. 2553 เวลา 08.56 น. [ IP : 111.84.148.239 ]
‎"ในโลกนี้ไม่มีใครได้ทุกอย่าง คนที่พยายามจะได้ทุกอย่าง คนๆนั้นจะทุกข์ที่สุด สุดท้ายจะสูญเสียทุกอย่าง"
โดย. ท่าน ว.วชิรเมธี
เขียนโดย คุณ ง๊องแง๊ง
วันที่ 24 ก.ค. 2553 เวลา 09.00 น. [ IP : 111.84.148.239 ]
อดีตนั้นแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน หรือ ลึกลับดำมืดปานใด มันก็จบไปแล้ว อย่าให้อดีตมากรีดปัจจุบัน จงลืมความหลังและมาตั้งต้นใหม่
เขียนโดย คุณ ง๊องแง๊ง
วันที่ 24 ก.ค. 2553 เวลา 09.02 น. [ IP : 111.84.148.239 ]
"ถึงแม้ เราจะยังไม่สามารถตัดกิเลสได้ แต่ก็ไม่ควรตกเป็นทาสของกิเลสเต็มเวลา ควรมีบางช่วง ที่เราลุกขึ้นมาบริหารจัดการกิเลสอย่าให้กิเลสครอบงำเรา"
เขียนโดย คุณ ง๊องแง๊ง
วันที่ 24 ก.ค. 2553 เวลา 09.03 น. [ IP : 111.84.148.239 ]
"เราจะอยู่ในโลกนี้อย่างมีความสุข ถ้าเราเข้าใจโลกธรรม โลกธรรม คือ ธรรมดาของโลก ถ้าคุณไม่เข้าใจโลกธรรม วันหนึ่งคุณจะถูกโลกกระทำ"
เขียนโดย คุณ ง๊องแง๊ง
วันที่ 24 ก.ค. 2553 เวลา 09.05 น. [ IP : 111.84.148.239 ]
"อย่ากลัวความทุกข์ เพราะเมื่อเราผ่านทุกข์ไปได้ มันจะกลายเป็นประสบการณ์ เป็นกำไรของเรา"
เขียนโดย คุณ ง๊องแง๊ง
วันที่ 24 ก.ค. 2553 เวลา 09.05 น. [ IP : 111.84.148.239 ]
เมื่อเกิดความอยากก็ต้องสนองตามความอยากนั้นและเมื่อไม่ได้ตามความอยากก็โกรธจนเกิดไฟเผาลนจิตใจทีนี้ถ้าไม่รู้ว่าจะแก้มันอย่างไรก็คือโมหะความหลง นี่กิเลสมันวนเวียนเนื่องกันอยู่อย่างนี้
โดย ท่านพุทธทาสภิกขุ
เขียนโดย คุณ ธุรการง๊องแง๊ง
วันที่ 24 ก.ค. 2553 เวลา 09.07 น. [ IP : 111.84.148.239 ]
"สิ่งที่ล่วงไปแล้วไม่ควรไปทำความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งของที่ ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง แม้จะทำความผูกพัน ...และมั่นใจในสิ่งนั้น กลับมา เป็นปัจจุบันก็เป็นไปมิได้ ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกข์แต่ผู้เดียว โดยความไม่สมหวังตลอดไป อนาคตที่ยังไม่มาถึงก็เป็นสิ่งไม่ควรยึดเหนี่ยว เกี่ยวข้องเช่นกัน อดีตควรปล่อยไว้ตามอดีต อนาคตก็ควรปล่อยไว้ตามกาล ของมัน ปัจจุบันเท่านั้นที่จะสำเร็จเป็นประโยชน์ได้ เพราะอยู่ในฐานะที่ควร ทำได้ไม่สุดวิสัย ,ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ จะแยกกันไม่ได้ หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก ต้องอิงอาศัยกันอยู่ฉันใดก็ดี ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ก็อาศัยกันอยู่อย่างนั้น สัทธรรมสามอย่างนี้ จะแยกกันไม่ได้เลย"
โดย หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ
เขียนโดย คุณ ง๊องแง๊ง
วันที่ 24 ก.ค. 2553 เวลา 09.08 น. [ IP : 111.84.148.239 ]
ก็ได้ข้อคิดดีนะค่ะคงสนใจธรรมมะมากเลยนะค่ะว่าง ๆจะเข้ามาอ่นอีกนะค่ะ ชอบผลงานของท่านว.วชิรเมธีเช่นกันค่ะ
เขียนโดย คุณ
วันที่ 28 ก.ย. 2553 เวลา 20.46 น. [ IP : 110.164.234.170 ]
แล้วพวกที่เป็นเมียน้อยเนี่ย....เขาเรียกว่า ทุกข์ หรือ สุข ค่ะ หรือ ปาบค่ะ เป็นแบบไหนอยากรู้จัง
เขียนโดย คุณ แอน
วันที่ 29 ก.ย. 2553 เวลา 06.40 น. [ IP : 95.223.226.24 ]
อยากหลุดพ้นจากความทุกทำงัยดีค่ะ ทุกในใจ
เขียนโดย คุณ
วันที่ 30 ก.ย. 2553 เวลา 11.30 น. [ IP : 203.114.123.98 ]